ธ.ก.ส. พร้อมจ่ายประกันราคาข้าว โอนเงิน เข้าบัญชีเกษตรกร ภายใน 3 วัน

หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 จากนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบหลักการ โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ตามมติ นบข. เงื่อนไขจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา โครงการดังกล่าว รวมวงเงินทั้งสิ้น 54,972,72 ล้านบาท โดยจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามรายละเอียดดังนี้ จ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท จำกัดไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกิน 20,000 บาท โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1  วงเงิน 13,604 ล้านบาท ดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน โดยประกันรายได้ให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65  (รอบที่ 1) กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เมษายน-31 ตุลาคม 2564  ยกเว้นภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน 2564-28 กุมภาพันธ์ 2565 เงื่อนไขจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 โดยกำหนดราคาและปริมาณประกันรายได้คือ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าวดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 15,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 14,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 10,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 11,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคา 12,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ขั้นตอน-ช่องทางเช็กเงิน เข้าเว็บไซต์ chongkho.inbaac.com กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกดค้นหา สำหรับผู้ที่ได้รับเงินระบบจะขึ้นข้อมูลว่า “โอนเงินเรียบร้อยแล้ว” โดยจะแสดงชื่อโครงการ, เลขที่บัญชี, วันที่โอน, สาขา ธ.ก.ส. และสถานะ แหล่งที่มา: cr.matichon , Cr.khao-d ประกันภัยออนไลน์ 24 ชม.https://member.724.co.th/register_member/u/AM00096771

แนวทางช่วยเหลือลูกค้า ‘เอเชียประกันภัย’

💚แนวทางช่วยเหลือลูกค้าเอเชียประกันภัย ✅1. ลูกค้าที่ได้รับความเสียหายแล้ว1.1 กรณียื่นเรียกร้องความเสียหายแล้ว กองทุนฯ จะเข้ารับช่วงจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ตามที่มีการอนุมัติค่าสินไหมทดแทนไว้แล้ว1.2 กรณียังไม่ได้ยื่น ให้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมฯ จากกองทุนทดแทน โดยกองทุนฯ จะพิจารณาค่าสินไหมตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ✅2. ลูกค้าที่ถือกรมธรรม์โควิด ที่มีผลบังคับใช้อยู่2.1 สามารถนำเบี้ยไปซื้อแผนโควิดจากทิพยประกันภัย ในวงเงินความคุ้มครอง 300,000 เบี้ย 300 บาท2.2 นำเบี้ยไปซื้อความคุ้มครองกับ บ.ประกันวินาศภัยอื่นที่เข้าร่วมโครงการ โดยรับส่วนลดเพิ่ม 10% ของกรมธรรม์ใหม่ แต่ไม่เกิน 500 บาท ✅3. ผู้ถือกรมธรรม์ทุกประเภท ที่มีผลบังคับใช้อยู่3.1 ขอรับคืนเบี้ยประกันภัยที่เหลือจากกองทุนประกันวินาศภัย โดยกองทุนจะคืนเบี้ยให้ตามสัดส่วนระยะเวลาความคุ้มครองที่เหลืออยู่3.2 นำเบี้ยประกันภัยที่จะได้รับคืนไปใช้แทนเงินสดในการเลือกซื้อประกันภัยจาก บ.ประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้คปภ.ได้เตรียมการรองรับการสั่งเพิกถอนดังกล่าว เพื่อไม่ได้รับผลกระทบกับพี่น้องประชาชน จึงได้บูรณาการออกคำสั่งให้กองทุนประกันภัยเข้ามารับช่วงในการจ่ายคืนเบี้ยประกันในส่วนกรมธรรม์ที่ยังมีผลคุ้มครองอยู่ โดยร่วมกับ 13 บริษัทประกันภัย ในการจะรับโอนกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ หลังจากได้รับการคืนเบี้ยจากกองทุนฯแล้ว ก็จะนำมาซื้อกับ 13 บริษัทดังกล่าว นอกจากนี้กองทุนฯจะยังทำหน้าที่รวมถึงการรับเคลมสินไหมโควิดและประกันรถยนต์และประเภทอื่นๆที่มีการยื่นเรียกร้องสินไหมเข้ามา ในส่วนของประกันโควิดเจอจ่ายจบนั้น ก็จะให้กองทุนฯคืนเบี้ยประกันให้กับผู้เอาประกัน และนำไปซื้อประกันโควิดในรูปแบบโคม่า กับบริษัททิพยประกันภัย ซึ่งเปิดจำหน่ายด้วยเบี้ยประกัน 300 บาท คุ้มครองกรณีเสียชีวิต 3 แสนบาท ทั้งนี้ทางคปภ.ยังไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ และมีการเตรียมการสถานที่พร้อมจะรองรับประชาชนที่จะมาเรียกร้องสิทธิ์ค่าสินไหมต่างๆ หรือการรับคืนเบี้ยประกันเพื่อนำไปซื้อประกันกับบริษัททิพยฯต่อไป ❇️ บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ กรุงเทพประกันภัย กรุงไทยพาณิชประกันภัย ทิพยประกันภัย เทเวศประกันภัย ธนชาตประกันภัย นวกิจประกันภัย ไทยวิวัฒน์ประกันภัย เอ็มเอสไอจีประกันภัย มิตรแท้ประกันภัย วิริยะประกันภัย เอไอเอ ประกันวินาศภัย ไทยศรีประกันภัย ซมโปะประกันภัย 📝 เอกสารที่ต้องนำไปติดต่อ กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประชาชนผู้เอาประกัน ใบเคลม / ใบนัดชำระหนี้ หนังสือรับรองการจดทะเบียน(กรณีเป็นนิติบุคคล) หนังสือมอบอำนาจ+อากรแสตมป์ 30 บาท กรณีไม่สามารถไปยื่นด้วยตนเองพร้อมบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ กรณีเป็นเจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย เอกสารใช้อย่างละ 2 ชุด กรณีเป็นเจ้าหนี้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหนี้ตามสัญญาประกันภัย เอกสารใช้อย่างละ 1 ชุด เจ้าหนี้ ต้องมายื่นขอรับชำระหนี้ภายใน 60 วันตั้งแต่วันที่กำหนด 🏬 สถานที่ยื่นชำระหนี้ กองทุนประกันวินาศภัยอาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ชั้น 15 ถ.วิภาวดีฯ กรุงเทพฯโทร. 02-791-1444 ต่อ 11-15 และ 21-24 สนง. คปภ.💥ส่วนกลาง สนง.คปภ.ส่วนกลาง ถ.รัชาดาโทร. 1186 สนง.คปภ.ท่าพระ ถ.รัชดา-ท่าพระโทร. 02-476-9940-3 สนง.คปภ.บางนา อาคารบางนาธานี ชั้น 8 กทม.โทร. 02-361-3769-70 💥ส่วนภูมิภาค สนง.คปภ.ภาค และ คปภ.จังหวัดทั่วประเทศhttp://www.oic.or.th/th/region ตัวแทนเอเชียประกันภัย สามารถย้ายสังกัดมาอยู่กับบ.ศรีกรุงโบรคเกอร์ได้ฟรี ลงทะเบียน https://bit.ly/3DQkliJ แหล่งที่มา: สำนักงาน คปภ.

ซื้อ- ขาย “ทองคำ” ออนไลน์ผ่านแอปฯเป๋าตัง ไม่มีค่าธรรมเนียม’ โดยกรุงไทยจับมือกุบ...

มิติใหม่ "กรุงไทย" เปิดซื้อขาย "ทองคำ" บนแอปฯเป๋าตัง แบบเรียลไทม์ ฟรีค่าธรรมเนียม

วิธีต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ ทำเองได้ง่ายๆ

By Srikrung Thailand – October 8, 2021 ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ สามารถทำได้เองง่ายๆ      การต่อภาษีรถยนต์ หรือ การต่อทะเบียนรถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่มีรถยนต์ไว้ในครอบครอง เจ้าของรถยนต์ทุกคันจะต้องรับผิดชอบ และต่อภาษีรถยนต์ทุกปี สามารถต่อล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน เพราะหากมีการล่าช้าจะต้องเสียค่าปรับ หรือขาดชำระติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 ปี คุณจะถูกระงับการใช้ทะเบียนรถยนต์ แถมยังเสียเวลาไปทำเรื่องขอทะเบียนใหม่ เรียกได้ว่ามีความยุ่งยากมาก ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้รถทะเบียนขาด เงื่อนไขรถสำหรับยื่นชำระภาษี รถที่สามารถยื่นชำระภาษีประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ตมีเงื่อนไขดังนี้ – เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รย.1)เก๋ง/4ประตู, รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รย.2) รถตู้ ,รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รย.3) กระบะตอนเดียวหรือกระบะแค๊ป และรถจักรยานยนต์ (รย.12) มอเตอร์ไซต์ ที่จดทะเบียนทุกจังหวัด – รถประเภท เก๋ง, กระบะ และ รถตู้ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปีนับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก และรถ มอเตอร์ไซต์ ที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปี นับจากวันจดทะเบียนครั้งแรก ต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนชำระภาษี – รถประเภท เก๋ง, กระบะ และ รถตู้ ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 2,200 กิโลกรัม หรือที่ไม่ต้องขอรับความเห็นชอบ ก่อนชำระค่าภาษีประจำปี – รถที่ค้างชำระค่าภาษีประจำปี เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจสภาพจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ก่อนชำระภาษี – ไม่ใช่รถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (แก๊ส) ทุกชนิดเป็นเชื้อเพลิง – เป็นรถที่มีสถานะทางทะเบียน หรือไม่ถูกระงับทะเบียนเนื่องจากค้างชำระภาษีประจำปี ติดต่อกันครบ 3 ปี – ไม่ใช่รถที่ได้รับการยกเว้นค่าภาษีประจำปี – ไม่ใช่รถที่ถูกอายัดทะเบียน – ชำระภาษีประจำปีล่วงหน้าไม่เกิน 90 วัน ก่อนวันครบกำหนดชำระภาษี เอกสารในการขอต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ พ.ร.บ รถยนต์ สำเนาจดทะเบียนรถยนต์ (กรณีรถติดไฟแนนซ์ให้ใช้สำเนาทะเบียนจากสถานบันการเงิน) ใบตรวจสภาพรถยนต์ สำหรับรถยนต์ที่เกิน 7 ปี  การรับชำระภาษีรถประจำปีผ่านระบบอินเตอร์เน็ต 1. วิธีการ – เข้าเว็บไซค์ eservice.dlt.go.th – ลงทะเบียนเพื่อขอรับรหัสผ่าน – กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับรถ – กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับหลักฐานการเอาประกัน ตาม พ.ร.บ คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 (กรณี พ.ร.บ. ที่มีความคุ้มครองมากกว่า 3 เดือน) – เลือกวิธีชำระเงิน ได้แก่ 1. หักบัญชีเงินฝาก (ต้องมีบัญชีเงินฝากและเป็นสมาชิกใช้บริการโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกับธนาคาร/หน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการ) 2. ชำระด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต (ต้องเป็นผู้ถือบัตรเครดิต/บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA , MASTER) 3. พิมพ์ใบแจ้งชำระภาษีรถแล้วนำไปชำระ ณ เคาน์เตอร์หรือตู้ ATM ของธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ […]