วิธีการอ่านกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์

วันนี้เราจะมาดูกันว่าเมื่อเราได้รับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์มาแล้ว เราต้องตรวจสอบอะไรบ้างในกรมธรรม์ และแต่ละเรื่องในกรมธรรม์มีความหมายอย่างไร

รูปแบบของกรมธรรม์ประกันภัย จากตัวอย่างจะเป็นกรมธรรม์ประเภท 1

กรมธรรม์มีหน้าตาเหมือนกับในภาพ แล้วแต่ว่าเราใช้บริการของบริษัทไหน และสิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ใหญ่ ๆ คือ

  1. รายละเอียดเกี่ยวกับผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์ วันเริ่มต้นประกันภัย และวันสิ้นสุดการประกันภัย
  2. เลขตัวถัง
  3. ความคุ้มครองที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
  4. ความคุ้มครองที่เกี่ยวกับรถยนต์
  5. ความคุ้มครองแนบท้าย

ส่วนที่ 1 ที่ต้องตรวจสอบ

รายละเอียดเกี่ยวกับผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์ วันเริ่มต้นประกันภัย และวันสิ้นสุดการประกันภัย

ชื่อผู้เอาประกัน

ชื่อผู้เอาประกัน หมายถึงคู่สัญญาที่ตกลงจะชำระเบี้ยให้กับบริษัทประกันภัย โดยปกติจะต้องเป็นชื่อเรา แต่ถ้าเป็นชื่อไฟแนนซ์ หรือ โชว์รูม ก็สามารถแจ้งเปลี่ยนแปลงกับบริษัทประกันภัยได้

ผู้รับผลประโยชน์

ผู้รับผลประโยชน์ หมายถึง ผู้ที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนต่าง ๆ จากบริษัทประกันภัย ในกรณีที่รถยนต์ได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิงจนบริษัทพิจารณาจ่ายคืนทุนประกัน ซึ่งจะเป็นคนเดียวกันกับผู้เอาประกันภัยก็ได้ และจะต้องมีภาระผูกพันธ์กับรถยนต์คันนั้นด้วย เช่น ผู้รับผลประโยชน์จะระบุเป็นเจ้าของรถ หรือ ผู้ที่มีกรรมสิทธิ์ในรถยนต์คันนั้น เช่นตัวอย่างระบุเป็นชื่อไฟแนนซ์เพราะรถยนต์ยังผ่อนชำระอยู่

ระยะเวลาเอาประกันภัย

ระยะเวลาเริ่มต้น และ สิ้นสุดของการเอาประกันภัยในกรมธรรม์ฉบับนี้ ซึ่งระเวลาในการเริ่มจะไม่ได้ระบุเวลาซึ่งหมายความว่าจะเริ่มคุ้มครองตั้งแต่ 00.01 น. ของวันที่ระบุไว้ ส่วนระยะเวลาสิ้นสุด โดยทั่วไปจะสิ้น ณ เวลา 16.30 น. ของวันที่ระบุในกรมธรรม์

ส่วนที่ 2 ที่ต้องตรวจสอบ

ตรวจสอบเกี่ยวกับรายละเอียดของรถยนต์ที่ทำประกันภัย

สิ่งที่เราต้องตรวจสอบให้ดี คือ เลขตัวถัง เนื่องจากบริษัทประกันภัยจะยึดเลขนี้เป็นหลัก ทะเบียนผิดยังเคลมได้แต่ถ้าเลขตัวถังผิดเคลมไม่ได้ จนต้องร้องเรียนกันเป็นเรื่องเป็นราวเสียเวลา เพราะฉนั้นเราจะต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง เพราะหลายๆครั้งเจ้าหน้าที่คีย์ผิดก็เคยมี ถ้าผิดต้องรีบแจ้งให้บริษัทประกันภัยดำเนินการแก้ไขทันที

ส่วนที่ 3 ที่ต้องตรวจสอบ

ตรวจสอบเกี่ยวกับความคุ้มครองที่เกี่ยวกับบุคคลภายนอกทั้งสิ้น เราจะตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้กับตัวแทนหรือนายหน้าประกันวินาศภัยเสนอขายมา หรือไม่

บุคคลภายนอกใครบ้าง

บุคคลภายนอกจะหมายถึงทุกคนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ของผู้ขับขี่ แต่จะไม่รวมบุคคลดังนี้

  • บิดา มารดา
  • บุตร/ธิดา
  • สามี หรือ ภรรยา
  • ลูกจ้าง ในทางการที่จ้าง

ความเสียหายต่อขีวิต ร่างกาย หรืออนามัยเฉพาะส่วนที่เกินจาก พ.ร.บ

จากตัวอย่าง บริษัทประกันภัยจะจ่ายเมื่อความเสียหายเกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกในเรื่องของการได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท และ รวมกันสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท จากส่วนที่เกินจาก พ.ร.บ. คือเมื่อเกิดอุบัติเหตุอันดับแรกต้องเบิกจาก พ.ร.บ. ก่อนถ้าวงเงินไม่พอถึงจะมาเบิกกับส่วนนี้เพิ่มเติมตามเงื่อนไข

ความเสียหายทรัพย์สินบุคคลภายนอก

จากตัวอย่าง บริษัทประกันภัยจะจ่ายเมื่อความเสียหายเกิดขึ้นกับบุคคลภายนอกในเรื่องของทรัพย์สินทั้งหมดรวมกันไม่เกิน 1 ล้านบาท

ความเสียหายส่วนแรก

หมายถึง ค่าเสียหายที่จะต้องร่วมจ่าย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด จากตัวอย่าง จะเห็นว่าไม่มีก็คือไม่ต้องร่วมจ่ายถึงแม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ข้อดีของค่าเสียหายส่วนแรก คือ ถ้ามีค่าเสียหายส่วนแรกก็จะช่วยลดเบี้ยประกันภัยลง

ส่วนที่ 4 ที่ต้องตรวจสอบ

ตรวจสอบเกี่ยวกับความคุ้มครองรถยนต์ ของเราที่ได้ทำประกันภัยไว้

ความเสียหายต่อรถยนต์

ความเสียหายต่อรถยนต์ หมายถึง จะคุ้มครองรถยนต์คันนี้ตามมูลค่าที่ระบุไว้ หรือมักจะเรียกกันอีกอย่างว่าทุนประกัน บริษัทประกันภัยจะนำตัวเลขนี้มาจ่ายคืนเวลาที่เกิดความเสียหายอย่างสิ้นเชิง (มากกว่า 70% ของค่าซ่อมแซม)

ความเสียส่วนแรก

ความเสียส่วนแรก หมายถึง ค่าเสียหายที่จะต้องร่วมจ่าย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายผิด จากตัวอย่าง จะเห็นว่าไม่มีก็คือไม่ต้องร่วมจ่ายถึงแม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ข้อดีของค่าเสียหายส่วนแรก คือ ถ้ามีค่าเสียหายส่วนแรกก็จะช่วยลดเบี้ยประกันภัยลง

รถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้

รถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ ความหมายก็ตรงตัว บริษัทประกันจะจ่ายเมื่อรถยนต์สูญหาย หรือ เกิดไฟไหม้จนได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง บริษัทประกันภัยจะจ่ายตามมูลค่าที่ระบุไว้

ส่วนที่ 5 ที่ต้องตรวจสอบ

ส่วนนี้จะเป็นความคุ้มครองแนบท้าย เพื่อให้ความคุ้มครองคนที่อยู่ในรถโดยไม่มีข้อยกเว้น เพื่อให้ครอบคลุมถึงทุกคนที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ เพราะจากที่เราเห็นในส่วนที่ 2 จะมีข้อยกเว้นในการคุ้มครองของบุคคลภายนอกอยู่ ในส่วนนี้จะมาคุ้มครองบุคคลที่อยู่ในรถยนต์ที่ทำประกันภัยไว้ เพื่อให้ครอบคลุมถึงทุกคนรวมไปถึงคนขับรถด้วย

อุบัติเหตุส่วนบุคคล

จากตัวอย่าง จะคุ้มครองคนขับ และ ผู้โดยสาร รวมทั้งหมดเป็น 5 คน กรณีที่เสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครอง 1 แสนบาท กรณีได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ก็จะได้รับความคุ้มครองในการรักษา 1 แสนบาท

ประกันตัวผู้ขับขี่

กรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต เป็นคดีความขึ้นมา ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดจะถูกควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ในส่วนนี้บริษัทประกันภัยจะมาประกันตัวผู้ขับขี่ที่โรงพัก เพื่อรอขึ้นศาลเพื่อดำเนินคดี ตามมูลค่าที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

ประกันภัยออนไลน์ 24 ชม. https://insure.724.co.th/u/AM00096771

วิธีการอ่านกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์